เลือก Wedding Planner ยังไงให้ไม่ปวดใจภายหลัง

จะจัดงานแต่งงาน แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ไหนจะสถานที่ ธีมของงาน เสื้อผ้า หน้า ผม การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย ฯลฯ หลายสิ่งอย่าง วุ่นวายไปหมด แถมแต่ละคนก็ใช่ว่าจะได้จัดงานแต่งบ่อยครั้งใช่มั้ยล่ะคะ ส่วนใหญ่ก็เพิ่งจะเคยจัดงานแต่งกันทั้งนั้น สำหรับคู่ที่กำลังจะจัดงานแต่งงาน แต่ไม่อยากวุ่นวายปวดหัว หรือไม่มีเวลามานั่งเตรียมงานมากมายขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะมีการจ้าง Wedding Planner เข้ามาดูแลจัดการ

หน้าที่ของ Wedding Planner นั้นจะครอบคลุมตลอดทุกกระบวนการงานแต่ง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน วางคอนเซ็ปต์ในการตกแต่งงาน การดูแลความเรียบร้อยของการตกแต่ง การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย สโลแกน ป้ายชื่อ ภาพรวมของงาน จำนวนอาหาร  การแต่งกายของคู่บ่าวสาว นอกจากนี้ยังช่วยประสานงานกับทางโรงแรม สถานที่ และทีมงานต่าง ๆ ของงาน ไม่ว่าจะเป็น ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ช่างวีดีโอ ช่างดอกไม้ ฯ ทำสคริปต์ ควบคุมลำดับรายการของงาน และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทั้งหลายแหล่ที่จะเกิดขึ้นได้

แต่ใช่ว่าการจ้าง Wedding Planner จะไม่เกิดปัญหาใด ๆ ขึ้นเลยนะคะ ปัญหาที่เกิดขึ้นมักจะเป็นสิ่งที่ นอกเหนือจากการควบคุมค่ะ เช่น แขกผู้ใหญ่ยังมาไม่ถึง ไฟล์ presentation มีปัญหา นักดนตรีมาช้า แขกที่มานั่งผิดโต๊ะ โดยในส่วนนี้เราก็ต้องคุยกับทางเพื่อน ๆ ญาติ ๆ ที่จะมาช่วยงานค่ะ ว่าให้ช่วยกันดูแลอีกแรงหนึ่ง เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นมาได้   เพราะหน้าที่ของคู่บ่าวสาวคือต้องยืนยิ้มอยู่หน้างาน  ดังนั้นการใช้ Wedding Planner ก็เป็นการช่วยลดโอกาสในการเกิดปัญหาให้เหลือน้อยที่สุด เพราะส่วนใหญ่ก็ยังไม่เคยแต่งงานกันมาก่อน บางครั้งยกให้มืออาชีพเค้าช่วยจัดการ ก็ช่วยประหยัดทั้งเงินทั้งเวลาได้มากเชียวล่ะค่ะ เพราะคุณแทบไม่ต้องทำอะไรเลย Wedding Planner จะช่วยคุณจัดการให้ทั้งหมด

และถ้าคุณกำลังวางแผนที่จะใช้บริการ Wedding Planner สำหรับช่วยจัดการงานแต่งคุณ มีขั้นตอนและวิธีการง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณได้ Wedding Planner ที่ถูกใจ ไม่ปวดใจภายหลังมาฝากกันค่ะ

1. หา Wedding Planner ที่คุณสนใจ โดยดูจากเจ้าที่มีการแนะนำมา จากโฆษณา หนังสือ อินเตอร์เน็ต หรือโซเชียลมีเดีย
2. ลิสต์รายชื่อ Wedding Planner ที่คุณสนใจ โดยอาจจะเลือกจาก Wedding Planner ที่คนรู้จักแนะนำมา อยู่ใกล้บ้าน หรือมีชื่อเสียง เป็นต้น
3. ในงานแต่งงานของคุณ อยากให้มีอะไรบ้าง ลิสต์รายการมาเลยค่ะ แล้วมาดูว่ามีอยู่ในบริการของ Wedding Planner ที่คุณได้เลือกเอาไว้หรือไม่
4. ก่อนตัดสินใจ ลองตรวจสอบผลงาน หรือการบริการ ของ Wedding Planner จากผลงานที่ผ่าน ๆ มาก่อนด้วยนะคะ โดยอาจจะสอบถามจากคนที่เคยใช้บริการ จากกระทู้ต่าง ๆ หรือจาก website
5. เปรียบเทียบใช้จ่ายที่ Wedding Planner แต่ละเจ้าเรียกเก็บว่าอยู่ในงบที่คุณตั้งเอาไว้หรือไม่
6. เมื่อได้ Wedding Planner ที่สนใจก็ให้ทำการนัดหมายกับ Wedding Planner ที่คุณได้เลือกเอาไว้เพื่อพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติม
7. ในวันที่นัดหมายกับ Wedding Planner ให้คุณตั้งคำถามเกี่ยวกับ ประสบการณ์ในการทำงาน หรือการให้บริการ ขอดูผลงานที่ผ่านมา หรือผลงานที่เด่น ๆ ว่ามีอะไรบ้าง หากยังไม่ถูกใจ ก็ลองนัดเจ้าอื่นมาคุย เพื่อให้ได้ Wedding Planner ที่ถูกใจมากที่สุดค่ะ

การเลือก Wedding Planner ก็ต้องเลือกให้ดี ให้รอบคอบ ที่สำคัญเลยคือต้องพิจารณาจากประสบการณ์และการบริการค่ะ Wedding Planner ที่มีประสบการณ์มาก ๆ ย่อมมีการเตรียมงานที่เป็นมืออาชีพ มีคอนเน็คชั่นเกี่ยวกับร้านหรือทีมงานต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นช่างแต่งหน้า ช่างภาพ ร้านตัดชุด ร้านทำการ์ดแต่งงาน ร้านของชำร่วย ฯลฯ สามารถตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่า ซึ่งจะช่วยให้งานแต่งงานของคุณ เป็นวันที่แสนประทับใจ และไม่มีปัญหาให้ปวดใจกันภายหลังค่ะ