งานแต่งงานในปัจจุบัน เริ่มมีการใช้งาน Wedding Planner เข้ามาช่วยดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งช่วยให้งานแต่งให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีกันมากขึ้น ด้วยเพราะหน้าที่หลักของ Wedding Planner คือการจัดการแทบจะทุกอย่างให้คุณในงานแต่งงาน ดังนั้นการตัดสินใจเลือก Wedding Planner เป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยค่ะ เพราะถ้าไม่ทำการบ้านหาข้อมูลมาให้ดี เลือก Wedding Planner ผิด อาจทำให้วันที่สมควรจะสวยงามและน่าจดจำ กลายเป็นวันที่ไม่อยากจะนึกถึงขึ้นมาก็ได้ เรามาดูกันว่า ก่อนจะตัดสินใจเลือก Wedding Planner ต้องเช็คอะไรบ้าง เพื่อให้ถูกใจ ได้ราคาดี และงานออกมาดี
- ความประทับใจแรก เพราะ Wedding Planner จะเป็นคนคอยดูแลงานแต่งงานให้ออกมาตามที่เราต้องการ ดังนั้นจะต้องมีการพูดคุยสื่อสารกับเรามากที่สุด ดังนั้นควรดูด้วยนะคะ ว่าเจ้าไหน ที่ถูกจริตกับเรามากที่สุด จะได้คุยงานกันได้อย่างสบายใจค่ะ
- ความตรงต่อเวลา การนัดหมายกับ Wedding Planner เพื่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือความตรงต่อเวลาค่ะ ลองพิจารณาจากการมาถึงที่นัดหมาย หรือการรับปากว่าจะหาตัวอย่างของงานมาให้ดูวันไหน แล้วทำได้ตรงตามที่บอกไว้หรือไม่ เพราะในงานแต่ง จะมีกำหนดเวลาที่เป็นฤกษ์งามยามดี การตรงต่อเวลาจึงถึงว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะพลาดไม่ได้ในงานแต่ง
- ประสบการณ์ทำงาน สำหรับ Wedding Planner ยิ่งมีประสบการณ์มาก ก็ยิ่งน่าเชื่อถือมากค่ะ เพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่า เคยทำงานมาแล้วหลายงาน เจอปัญหาที่ต้องให้แก้ไขมาเยอะกว่า และที่สำคัญคือมีคอนเนคชั่นเยอะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นร้านตัดชุด ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ร้านอาหาร โต๊ะจีน ฯลฯ ซึ่งเราสามารถดูได้จากผลงานเก่า ๆ ที่ผ่านมาของ Wedding Planner เจ้านั้น ๆ
- การนำเสนอไอเดียเกี่ยวกับรูปแบบของงาน เมื่อเราคุยกับ Wedding Planner ว่าต้องการให้งานออกมาในลักษณะไหน ให้โจทย์ไป แล้วลองพิจารณาไอเดียที่เสนอมาให้ ว่าถูกใจเราหรือยัง สามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขได้ตามที่เราต้องการหรือไม่
- รายละเอียดของงาน ให้ดูว่า Wedding Planner ที่เราจะเลือกนั้น จะทำอะไรให้เราในงานแต่งงานบ้าง เช็คและคุยให้ละเอียดทุกขั้นตอนของการจัดงานค่ะ จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ “อ้าว เฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา” ให้มาปวดหัวกันในงานซะงั้น
- โปรโมชั่น ให้ดูว่า Wedding Planner แต่ละเจ้า มีโปรโมชั่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง หรือมีแพคเกจราคาพิเศษบ้างหรือไม่ เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกเยอะค่ะ
- ค่าใช้จ่าย เป็นอีกเรื่องที่ต้องเช็คค่ะ เพราะ Wedding Planner แต่ละเจ้า อาจมีรายละเอียดของงานเหมือนกัน แต่ราคาต่างกัน หรือมีนั่นนี่ในงานให้เราเยอะกว่า ในราคาที่แพงขึ้นมาอีกนิด หรือบางเจ้าอาจมีการคุยต่อรองราคากันได้ ก็ต้องดูว่าอยู่ในงบประมาณที่เราตั้งเอาไว้หรือเปล่า เปรียบเทียบสิ่งที่จะได้กับเงินที่ต้องจ่ายไป เพื่อความคุ้มค่ามากที่สุดค่ะ
- การวางแผนการทำงาน เมื่อเราคุยรายละเอียดต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ดูแผนการทำงานของ Wedding Planner ค่ะ ว่ามีการทำงานเป็นอย่างไร มีความละเอียดรอบคอบมากน้อยแค่ไหน หากเกิดปัญหาไม่คาดคิดขึ้นมา จะมีแผนสำรองอย่างไร
- ทีมงาน ไม่ใช่ว่าเราจะดูแค่ในส่วนของ Wedding Planner เพียงอย่างเดียวนะคะ ทีมงานต่าง ๆ ที่ทาง Wedding Planner จัดหามา เช่น การ์ดแต่งงาน ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ร้านตัดชุด หรืออาหารที่ใช้ในงาน ก็ต้องดูด้วยว่ามีผลงานที่ดีถูกใจเราหรือเปล่า ถ้าไม่มั่นใจ ก็สามารถหามาเองได้ และตกลงราคากับ Wedding Planner กันใหม่ค่ะ
- การเตรียมงาน ให้เราเช็คตารางเวลาในการเตรียมงานของ Wedding Planner ดูค่ะ ว่าถูกต้องตามที่ต้องการแล้วหรือยัง เช่น การ์ดแต่งงานจะได้วันไหน จะแจกการ์ดแต่งงานวันไหน งานเช้านิมนต์พระวัดไหน คิวบนเวทีเป็นอย่างไร ฯลฯ แต่ละขั้นตอนมีข้อผิดพลาดหรือไม่ ควรเพิ่มหรือลดในส่วนไหน และที่สำคัญคือ ตัวของ Wedding Planner เองจะต้องมาร่วมงานแต่งงานได้ และดูแลจัดการสิ่งต่าง ๆ ภายในงานให้เรียบร้อยตามที่ตกลงกันไว้ค่ะ
ลองเช็คกันดูนะคะ ว่า Wedding Planner ที่คุณจะจ้าง มีคุณสมบัติต่าง ๆ ตรงตามที่คุณต้องการหรือไม่ เพราะไม่ว่าใครก็อยากให้งานแต่งของตัวเองออกมาสมบูรณ์แบบ สวยงามน่าประทับใจด้วยกันทั้งนั้น การตัดสินใจจ้าง Wedding Planner จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ